• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

11 แนวทางช่วยทำให้คุณเลิกวิตกกังวล เรื่องที่ควบคุมไม่ได้

Started by fairya, April 06, 2023, 04:12:50 AM

Previous topic - Next topic

fairya

อย่ าพึ่งจะตกใจไปหากคุณเป็นผู้ที่มักเ ค รี ย ด หรือไม่สบายใจกับสิ่งต่างๆเพราะว่านั่นคือเรื่องปกติ

แต่นิสัยอย่ างนี้มันไม่ใช่เรื่องดีนักหคอยก เนื่องจากมันส่งผลต่อภาวะจิตใจและก็ชีวิตประจำวันของคุณได้


ถึงแม้ว่าการเลิกนิสัยอย่างนี้นั้นอาจจะไม่ได้ง่าย แต่ว่าก็มีวิถีทางอยู่เช่นกัน วันนี้พวกเรา


จึงมีเคล็ดลับที่สามารถจะช่วยให้คุณไม่เ ค รี ย ด เมื่อจำต้องเจอหน้ากับสิ่งต่างๆรวมทั้งสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้ าง

1. เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง

หนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้คุณมักจะอ่อนใจอยู่เป็นประจำก็คือการปล่อยวางไม่เป็น การปล่อยวางนั้นย าก

แม้กระนั้นจงจำไว้ว่ามันมีบางสิ่งบางอย่ างที่คุณเปลี่ยนแปลงมิได้อยู่ดี สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไปแล้วมันไม่อาจจะย้อนกลับไปคืนมาได้หรอก

เพราะเหตุไรคุณไม่ยอมรับมันแล้วปล่อยมันไปล่ะ ต่อไปนี้คุณจะไปก้าวไปข้างหน้าต่อและจุดโฟกัสกับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ

2. จุดโฟกัสกับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ก็พอเพียง

หากในสมัยก่อนคุณทำพลาดไปแล้ว ก็จะต้องมานึกถึงสิ่งที่คุณสามารถแก้ไขมันได้เวลานี้แทน ถ้าคุณไม่พอใจกับผลงานในเดือนที่ผ่านมา

ก็ทดลองปรับปรุงตัวเองในเวลานี้ให้ดีขึ้น อย่ ามัวรีรอที่จะปรับปรุงเนื่องจากมันบางทีก็อาจจะสายไป ได้แก่ถ้าเกิดคุณสอบตก คุณก็บางทีอาจจะจำเป็นต้องสร้างนิสัยใน


การศึกษาเล่าเรียนขึ้นมาใหม่ ต้องอย่ าลืมว่ามีสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ แล้วก็ควรโฟกัสกับสิ่งเหล่านี้จะดีมากกว่า

3. ประยุกต์แผนที่ไม่ต า ย ตัวรวมทั้งมีความยืดหยุ่น

อย่ าพึ่งยอมถ้าหากสิ่งต่างๆไม่เป็นอย่ างที่คุณต้องการ ทดลองใช้แผนอื่นๆแทนก็ได้

คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนกลอุบาย แปลงวิธีการคิด ทดลองคิดถึงทางแก้ปัญหาแทนที่จะมานั่งกังวลกับสิ่งที่ไม่เป็นดั่งดวงใจ

4. ออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone)

อีกหนึ่งแนวทางที่จะสามารถช่วยให้คุณหายเป็นห่วงก็คือการทดลองทำอะไรที่ไม่เหมือนกันกับเดิมด้วยการเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเผชิญคนใหม่ๆ

ลองทำของใหม่ๆคุณอาจจะพบว่าตนเองทำเป็นดีมากกว่าที่คิด จงออกมาจากคอมฟอร์ทโซนของตน แล้วคิดให้ต่างไปจากเดิม

5. ตั้งใจปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม

คุณต้องพย าย ามปรับแก้ตัวเองให้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะมัวแต่ตื่นตระหนกกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ศึกษาจากความผิดพลาดในอดีตกาล

แล้วก็อย่ าพย าย ามเปลี่ยนแปลงอดีตกาลเนื่องจากนั่นเป็นสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ แม้กระนั้นจงเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวคุณให้ดีขึ้นกว่าเดิม

6. ใช้เวลากับคนคิดบวก

การตื่นตระหนกมากจนเกินความจำเป็นนั้นทำให้คุณสติแตกได้ ทดลองคุยกับเพื่อนที่มีทัศนคติที่ดี หรือมองโลกในแง่บวก

คุยกับผู้ที่เขาตั้งใจฟังคุณ แล้วก็เข้าใจคุณ เล่าให้เขาฟังว่าคุณตื่นตระหนกกับอะไร


และก็เอาคำแนะนำของพวกเขามาปรับใช้ การคุยกับคนที่คิดบวกจะช่วยทำให้คุณได้มุมมองใหม่ๆมากขึ้น

7. เปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง

หลายสิ่งในชีวิตนั้นเกิดเรื่องที่ไม่แน่นอน แต่นี่แหละคือปัจจัยที่ทำให้ชีวิตพวกเรานั้นมีความหมายขึ้นมาได้ ฉะนั้นควรเปิดรับความ

เปลี่ยน เพราะว่าความเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลี่ยงได้

แม้กระนั้นผู้ใดจะรู้ล่ะว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นบ้ าง อย่ ากลัว และก็ควรเข้าไปค้นหามัน

8. อย่ าโทษตนเอง

คุณไม่สามารถที่จะสามารถควบคุมได้ทุกอย่ าง โดยเหตุนั้นอย่ าโทษตนเอง คุณอาจจะเคยทำอะไรแ ย่ๆมาก่อน

แต่คุณก็สามารถเอามันมาเป็นบทเรียนเพื่อปรับปรุงตัวเองได้ การโทษตัวเองมีแต่จะมีผลให้สิ่งต่างๆ

แ ย่ลง สิ่งที่คุณควรทำเป็นมองหาคนที่เคยทำพลาดแล้วทำความเข้าใจว่าเขาปรับปรุงมันได้ยังไง ให้กำลังใจตนเองว่าคุณก็ทำได้แบบเดียวกัน

9. ฝึกให้มีสมาธีและก็มีสติสัมปชัญญะอยู่เป็นประจำ

นั่งสมาธิ ฝึกฝนลมหายใจ ทำให้เป็นประจำทุกวัน แล้วคุณจะพบว่ามันเป็นผลดีต่อคุณอย่ างมาก

10. ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต

วิถีชีวิตเป็นหนึ่งในสาเหตุของความไม่สบายใจ อย่ างยกตัวอย่างเช่น คุณกลุ้มอกกลุ้มใจว่าตนเองอ้วนเกินไป แต่ว่าคุณก็ยังไม่ยอมทำอะไร

แทนที่จะอยู่เฉยๆทำไมไม่ทดลองเปลี่ยนมะแม่น้ำละเล็กละน้อยล่ะ? ทดลองบริหารร่างกายทุกๆวัน เลี่ยงอ า ห า ร ขยะ นอนหลับให้เพียง


พอ บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้หรอก แม้กระนั้นศัตรูจริงๆก็คือตัวคุณเองนั่นแหละ ด้วยเหตุผลดังกล่าวคุณจำต้องเอาชนะตนเองให้ได้

11. หยุดเล่นโซเชียลมีเดีย หรือทดลองพักเอาไว้ก่อน

การเล่นเครือข่ายสังคมมากจนเกินไปนั้นทำให้ท่านวิตกได้ง่ายมาก มันมีการเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นๆอยู่ตลอด หากคุณมีความคิดว่าการ

เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คมันทำให้คุณรู้สึกแ ย่ คุณก็จำเป็นที่จะเลิกเล่นซะ แล้วหันไปทำอะไรที่มีประโยชน์ หรือให้ความสบายกับคุณแทนจะดีมากกว่า
คิดมาก
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13460/